ผู้สมัครงาน
เลือกช่องทางติดต่อ
วุฒิป.ตรี ไปเจองานเงินเดือนไม่ถึงหมื่น หรือหมื่นต้น ๆ ซึ่งน้อยกว่าที่ควรเป็น !!
งานก็หายาก.... ยังไงต่อดี ?
ต้องบอกก่อนว่า ค่าแรงขั้นต่ำตอนนี้กฎหมายกำหนดให้จ่าย 331 บาท/วันในกรุงเทพฯ ซึ่งเท่ากับว่า 1 เดือน ต้องได้ไม่ต่ำกว่า 9,930 บาท ถ้าน้อยกว่านี้ ไม่ต้องลังเลครับ ...บ๊ายบายเลย
แต่ถ้าพูดถึงเรื่องการจ่ายเงินเดือน โดยหลักแล้วจะมีบริษัทอยู่ 2 แบบ
1 บริษัทที่มีโครงสร้างเงินเดือนชัดเจน ส่วนมากจะเป็นบริษัทใหญ่ ซึ่งจะกำหนดเลยว่า แต่ละตำแหน่งงานให้เงินเดือนขั้นต่ำจนถึงขั้นสูงสุดอยู่ที่เท่าไร ถ้าผู้สมัครเรียกน้อยกว่าขั้นต่ำ บริษัทก็จะจ่ายให้เท่าขั้นต่ำสุดตามมาตรฐานที่กำหนดไว้เลย ซึ่งก็คือจะได้มากกว่าที่เรียกนั่นเอง แต่ถ้าเรียกสูงกว่าระดับเงินเดือนที่ควรได้รับเมื่อเทียบกับความสามารถ ก็ต้องพิจารณากันอีกที โดยอาจมีการทดสอบเพิ่มเติมหรือสัมภาษณ์เพิ่มเพื่อให้รู้ชัดเจนว่าความสามารถเหมาะสมกับที่เรียกหรือไม่
2 บริษัทที่ไม่มีโครงสร้างเงินเดือนกำหนดไว้ ซึ่งบริษัทเหล่านี้มีอยู่จำนวนมาก หรืออาจมีโครงสร้างเงินเดือน แต่ไม่ทำตามกติกาเหมือนบริษัทในข้อ1 โดยบริษัทเหล่านี้จะพิจารณาเงินเดือนโดยการประมาณคร่าว ๆ ให้ตามประสบการณ์ที่ผ่านมา ให้ตามที่บริษัทตั้งตัวเลขไว้เอง(โดยไม่ดูตลาดว่าเขาจ่ายแค่ไหน) หรือแย่หน่อยคือให้ตามความพึงพอใจของผู้สัมภาษณ์ และเป็นไปได้ว่า HR ในบางบริษัทมีนิสัยเคยชินกับการต่อรองเงินเดือนผู้สมัคร(ผู้สมัครที่เรียกเงินเดือนไปถูกต่อรองลดราคากันทุกคน)
ตัวอย่าง กรณีเห็นว่าเป็นน้องจบใหม่ ก็คิดตัวเลขไว้เลยว่าต้องได้แค่นี้แหละ โดยไม่ได้คำนึงถึงโปรไฟล์และความสามารถของน้องที่อาจมีพร้อมทำงานได้ หรือมีมากกว่าน้องจบใหม่คนอื่นหรืออาจมีคุณสมบัติใกล้เคียงรุ่นพี่ในระดับประสบการณ์ 1- 2 ปีเลยด้วยซ้ำ ต้องบอกว่าน้องอาจได้พบกับ HR ที่อาจไม่ได้มีประสบการณ์ที่เป็นมืออาชีพเพียงพอที่จะพิจารณาอะไรได้อย่างสมเหตุสมผลหรือมีประสบการณ์ไม่กว้างมากเท่าที่ควรเป็น แต่ย้ำว่าแค่บางคนนะครับ
ทั้งนี้ หากไปสัมภาษณ์แล้วถูกต่อรองเงินเดือนเหลือน้อยกว่าที่ควรเป็นหรือน้อยกว่าที่ใจเราหวังไปมาก ก็อาจเป็นไปได้สูงครับ ว่าเราไปเจอบริษัทในแบบที่ 2
แล้วจะรับงานดีไหมในสถานการณ์แบบนี้ ?
มันก็ตอบยากนะครับ ถ้าว่ากันตามจริง รายได้ก็เป็นปัจจัยที่สำคัญไม่น้อยต่อแรงจูงใจในการทำงาน ถ้าน้อยเกินไปไม่เพียงพอที่จะเลี้ยงดูตัวเองได้ในแต่ละเดือน แถมงานที่ทำก็เยอะยุ่งทั้งวัน ก็มีโอกาสที่เราจะหมดไฟในงานได้ง่ายมาก ตื่นมาก็ไม่มีความสุข ไม่อยากไปทำงาน สุดท้ายก็อยากลาออกทั้งที่เพิ่งทำได้ไม่นาน
ต้องพิจารณาปัจจัยอื่นด้วยครับ แล้วลองถามตัวเองดูว่า เราไหวไหม ถ้าบริษัทไม่ไกลมาก เดินทางสะดวก อยากลองสู้ทำดูก่อนไหม เข้าไปเก็บประสบการณ์ พัฒนาตัวเอง จะได้หางานต่อไปได้ง่ายขึ้น และมันก็ดีกว่าไม่มีรายได้อะไรเลย ถ้าไม่รับงานนี้ก็ไม่รู้ว่าจะหางานได้อีกทีเมื่อไร
แต่ถ้ามันต้องเดินทางไกล หักลบค่าใช้จ่ายแล้วเหลือน้อยมากหรือต้องควักเนื้อ เวลาอยู่กับครอบครัวก็หายไปเยอะ สุขภาพกายใจอาจรับไม่ไหวแน่ ๆ แบบนี้คงตัดสินได้เลยครับ
อย่างไรแล้ว แม้ช่วงนี้หลายบริษัทยังไม่สามารถจ่ายเงินเดือนได้สูงเท่าสถานการณ์ปกติ แต่ยังไงแล้ว รายได้จากการทำงานมันก็ต้องเพียงพอกับการใช้ชีวิตปกติของเราด้วยครับ ถ้าน้อยก็ต้องอยู่ในระดับที่เราอยู่ได้ พอรับได้ครับ
ดีที่สุดคือ ลองเน้นหางานใกล้บ้านที่เดินทางสะดวกดูครับ เพราะหากเงินเดือนน้อย เราก็สามารถพิจารณารับงานได้ง่ายกว่างานไกลครับ
ทั้งนี้ สามารถเข้าหน้าหางาน >> https://jobbkk.com/go/PitWk และเลือกสาขาอาชีพที่ต้องการ พร้อมเลือกสถานที่ทำงาน แล้วกดปุ่ม “ค้นหางาน” ได้เลยครับ
JOBBKK ขอเป็นกำลังใจให้คุณเสมอ และขอให้คุณได้งานที่ใช่ เงินเดือนที่ตรงใจในเร็ววันนะครับ
Website : www.senmentor.com
Line : wisebrown
Tel : 081-820-9271
มีโอกาสได้งานทันที คลิกสมัครเรซูเม่วันนี้ ฟรี
หางานด่วน เปิดรับกว่า 146,584 อัตรา คลิก >> https://jobbkk.com/go/YtvVO
7 Steps to improve your work life balance in 2024 สร้างสมดุลชีวิตกับการทำงาน สำหรับคนทำงานยุคใหม่
สรุปข้อดี-ข้อเสีย งานประจำ VS ธุรกิจส่วนตัว อะไรดีกว่ากัน?
เลิกจ้างกะทันหัน ลูกจ้างไม่ได้ทำผิด นายจ้างต้องจ่ายอะไรบ้าง ภายในกี่วัน
ไม่มีสัญญาจ้าง กฎหมายคุ้มครองไหม ถ้าโดนเลิกจ้างกะทันหันจะฟ้องได้รึเปล่า
หางานตามสาขาอาชีพ
JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved
jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด 
